อาจารย์ต่งได้เข้าร่วมกองทัพปฏิวัติแห่งชาติจีน ของนายพลเจียงไคเช็ก และเดินทางอพยพมายังไต้หวันพร้อมกับการล่าถอยของรัฐบาลชาตินิยม เมื่อย้ายมาอาศัยในไต้หวัน อาจารย์ได้เริ่มรักษาผู้ป่วย และสอนการฝังเข็มที่ว่ากันว่าท่านสืบทอดเทคนิคนี้มาจากบรรพบุรุษตระกูลของท่าน เนื่องจากจุดฝังเข็มที่ท่านใช้รักษาผู้ป่วยไม่อยู่ในบันทึกใน Nei Jing แบบดั้งเดิม แต่ผลการรักษาของท่านนั้นน่ามหัศจรรย์ ผู้คนจึงเรียกว่า “จุดฝังเข็มของ ต่ง”อาจารย์ต่งได้เข้าร่วมกองทัพปฏิวัติแห่งชาติจีน ของนายพลเจียงไคเช็ก และเดินทางอพยพมายังไต้หวันพร้อมกับการล่าถอยของรัฐบาลชาตินิยม เมื่อย้ายมาอาศัยในไต้หวัน อาจารย์ได้เริ่มรักษาผู้ป่วย และสอนการฝังเข็มที่ว่ากันว่าท่านสืบทอดเทคนิคนี้มาจากบรรพบุรุษตระกูลของท่าน เนื่องจากจุดฝังเข็มที่ท่านใช้รักษาผู้ป่วยไม่อยู่ในบันทึกใน Nei Jing แบบดั้งเดิม แต่ผลการรักษาของท่านนั้นน่ามหัศจรรย์ ผู้คนจึงเรียกว่า “จุดฝังเข็มของ ต่ง”

อาจารย์ต่งจิงชางได้ใช้ทฤษฏีการวินิจฉัยของตระกูลท่านและตำแหน่งจุดของต่ง ซึ่งมีความแตกต่างจากทฤษฏีเส้นเมอริเดียนสิบสี่เส้นแบบดั้งเดิม จุดฝังเข็มตระกูลต่งมีความเฉพาะและมีตำแหน่งของจุดที่แน่นอนและแม่นยำมาก  ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในการรักษาโดยการปล่อยเอาเลือดออกเป็นพิเศษ  ตลอดชีวิตของอาจารย์ มีลูกศิษย์ที่ท่านถ่ายทอดทั้งหมด73คน และลูกศิษย์แต่ละคนล้วนมีชื่อเสียงมากในแวดวงการแพทย์แผนจีนของไต้หวัน .   หนึ่งในลูกศิษย์ของท่าน ได้แก่ อาจารย์หูเวิ่นจื้อ  ลูกศิษย์ลำดับที่สิบสาม ซึ่งปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่และอาวุโสที่สุด ถือเป็นลูกศิษย์ที่สืบทอดของอาจารย์ต่งท่านเดียวที่เปิดคลินิกรักษาด้วยวิธีต่งในประเทศไต้หวัน  อาจารย์หูเวิ่นจื้อถือว่าเป็นลูกศิษย์ที่ติดตามปรมาจารย์ต่งนานที่สุดเนื่องจากท่านเป็นลูกศิษย์คนต้น จึงสืบทอดเทคนิคตระกูลต่งที่บริสุทธิ์โดยไม่ผิดเพี้ยนจากสิ่งที่อาจารย์ต่งได้ถ่ายทอดไว้ ปรมาจารย์ต่ง ได้เสียชีวิตเมื่อปี  1975